ถูกไฟแนนซ์ฟ้องเรียกค่าส่วนต่าง ต้องต่อสู้คดี ไม่ต้องรับผิด

เช่าซื้อรถยนต์  #ถูกไฟแนนซ์ฟ้อง ไม่ต้องรับผิดในส่วนของค่าขาดราคา

ถ้าผู้เช่าซื้อส่งมอบรถคันเช่าซื้อคืนให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อก่อนผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ สัญญาเช่าซื้อจึงเป็นอันเลิกกัน หากผู้ให้เช่าซื้อนำรถคันเช่าซื้อไปขายทอดตลาดแล้วได้ราคาน้อยกว่าราคาตามสัญญาเช่าซื้อ กรณีนี้ผู้เช่าซื้อไม่ต้องรับผิดในส่วนของค่าขาดราคา แม้จะมีข้อสัญญากำหนดให้ต้องรับผิดก็ตาม โดยเมื่อผู้เช่าซื้อได้รับหมายเรียกหรือหมายศาล ให้ปรึกษาทนายตรวจดูคำฟ้อง ทำคำให้การต่อสู้คดี ไม่ต้องรับผิดในค่าส่วนต่าง

ตัวอย่างคำพิพากษาศาลฎีกา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่5239/2561 ภายหลังจากจำเลยที่ 1 ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์จากโจทก์ จำเลยที่ 1 ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อให้แก่โจทก์ 2 งวด โดยยังไม่ผิดนัด จำเลยที่ 1 นำรถยนต์ที่เช่าซื้อไปส่งมอบคืนให้แก่โจทก์อันเป็นเวลาก่อนถึงกำหนดชำระค่าเช่าซื้องวดที่ 3 หนึ่งวัน แสดงว่าในขณะส่งคืนทรัพย์สินที่ให้เช่าซื้อจำเลยที่ 1 ยังหาได้ตกเป็นผู้ผิดนัดไม่ กรณีไม่ใช่เรื่องที่จำเลยที่ 1 ผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อแล้วนำรถคันที่เช่าซื้อไปส่งมอบคืนให้แก่โจทก์ แต่เป็นเรื่องที่จำเลยที่ 1 ใช้สิทธิเลิกสัญญาเช่าซื้อในขณะที่ตนเองยังมิได้ตกเป็นผู้ผิดนัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 573 ซึ่งบัญญัติว่า ผู้เช่าซื้อจะบอกเลิกสัญญาในเวลาใดเวลาหนึ่งก็ได้ด้วยการส่งมอบทรัพย์สินกลับคืนให้แก่เจ้าของโดยเสียค่าใช้จ่ายของตนเอง อันเป็นบทบัญญัติให้สิทธิผู้เช่าซื้อเลิกสัญญาได้และส่งผลให้สัญญาเช่าซื้อเป็นอันเลิกกัน เมื่อสัญญาเช่าซื้อเลิกกันโดยจำเลยที่ 1 ไม่ได้ประพฤติผิดสัญญา แม้ในสัญญาเช่าซื้อจะมีข้อความว่า กรณีที่เจ้าของได้รถกลับคืนมาไม่ว่าจะด้วยเหตุที่เจ้าของเป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญาหรือผู้เช่าซื้อเป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญาโดยการส่งมอบพื้นที่เช่าซื้อคืนแก่เจ้าของ เจ้าของนำรถออกขายได้ราคาน้อยกว่ามูลหนี้ส่วนที่ขาดทุนตามสัญญา ผู้เช่าซื้อตกลงรับผิดส่วนที่ขาดก็ตาม แต่การที่จำเลยที่ 1 ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาและไม่ปรากฏว่าขณะที่สัญญาเลิกกันจำเลยที่ 1 มีหนี้ต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ เพียงใด โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกค่าขาดราคาจากจำเลยที่ 1 ได้ เมื่อจำเลยที่ 1 ผู้เช่าซื้อไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าขาดราคาให้แก่โจทก์ จำเลยที่ 2 และที่ 3 ผู้ค้ำประกันย่อมไม่ต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์ด้วย

error: Content is protected !!
ข้ามไปยังทูลบาร์